วันจันทร์ที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2558

สร้างเครื่องหมาย(badge) เวบหลักไปยังหน้าเวบไซต์ google+

การสร้างเครื่องหมาย(badge) เวบหลักไปหน้าเวบไซต์ google+ เพื่อประโยชน์ในการทำ seo นั่นเอง พูดง่ายๆ หน้าเพจของกูเกิลพลัสจะถูกเวบหลักลิงค์ไปหาได้ยังไง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการค้นหาจากกูเกิล

จริง ๆ ขั้นตอนการสร้างลิงค์ตามคำแนะนำของกูเกิลเองสามารถทำได้โดยไม่ยากเย็นนักมีแค่เพียงสคริปไปวางบรรทัดเดียว แต่การทำความเข้าใจสิยากกว่า เพราะผู้เขียนใช้เวลาหลายวันเหมือนกันในการทำความเข้าใจและดำเนินการเรื่องนี้

ดูไดอะแกรมกันก่อน การทำลิงค์จากเวบหลักไปหน้าเพจของกูเกิลพลัสก็เพื่อประโยชน์สำหรับการทำ seo  ลองดูตัวอย่างเวบหลักที่สามารถทำลิงค์ไปได้อย่างถูกต้อง หากเราใช้เครื่องมือในการวิเคราะห์หน้าเวบไซต์ ผลการวิเคราะห์จะแสดงว่าหน้าเวบหลักของเราลิงค์ไปยังหน้าเพจของกูเกิลพลัสแล้ว




เวบหลัก --> หน้าเพจของกูเกิลพลัส

 



ผู้เขียนทดสอบโดยการใช้เวบไซต์ woorank วิเคราะห์พบว่าการสร้างสคริปเข้าไปเพียงหนึ่งบรรทัดสามารถทำให้กูเกิลรู้จักหน้าเพจของกูเกิลพลัสที่มีความสัมพันธ์กับเวบหลัก
สำหรับสคริปที่ใช้ให้นำไปวางหน้าแรกของเวบหลักในแท็ก head 
<link href="https://plus.google.com/{plusPageUrl}" rel="publisher" />
ให้แทน {plusPageUrl} ด้วยลิงค์ของหน้าเพจกูเกิลพลัสตามตัวอย่างสำหรับลิงค์ทดสอบก็คือ

<link href="https://plus.google.com/+gpsvehiclethai" rel="publisher" />

 สรุปขั้นตอนการสร้างเครื่องหมาย(badge)เวบหลักไปยังหน้าเวบไซต์ google+ สามารถดำเนินการได้ทันทีและเร่งด่วน อย่างน้อยก็เพิ่มความหน้าสนใจให้กูเกิลทำการสืบค้นความเชื่อมโยงระหว่างเวบหลักและหน้าเพจของกูเกิลพลัสได้อย่างถูกต้อง เป็นประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับการทำ seo 

ผู้เขียนต้องขอฝากประชาสัมพันธ์ เวบไซต์ใหม่ thai gps tracker ใช้พื้นฐานของเวบโหนดซึ่งยอมรับว่ามีการทำงานแบบมืออาชีพจริงๆ ในการสร้างเวบใหม่ไม่ยากอย่างที่คิด เพียงแต่ค่าใช้จ่ายค่อนข้างโหดเหมือนกันในแต่ละปี ส่วนขั้นตอนการวิเคราะห์คุณภาพในการค้นหาภายใต้เวบโหนดต้องขอยกยอดนำเสนอในโอกาสต่อไปถ้ามีข้อมูลมากเพียงพอ







วันเสาร์ที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2558

รายงานผลของการโดนแกล้ง ส่งสแปมลิงค์จำนวนมากให้กับเวบไซต์ของเรา

สถานการณ์ถูกโจมตีด้วยการส่งสแปมลิงค์ยังไม่ใกล้ยุติ หลังจากที่ผู้เขียนได้กู้คืนโดยใช้การปฏิเสธลิงค์ไปถึง 2 เวบไซต์ แนวโน้มอันดับการค้นหาอยู่ในทิศทางที่ดีขึ้น เริ่มมีความสบายใจมากขึ้นเพราะเราสามการถแก้ปัญหาได้ทันเวลา ก่อนเหตุร้ายจะมาเยือน

ทีนี้ลองมาดูว่าหากเราไม่ทันเวลา ผลร้ายอะไรที่เกิดขึ้นบ้าง ผู้เขียนเองก็มัวแต่เป็นห่วง 2 เวบเดิม หันกลับมาดูอีกเวบไซต์หนึ่ง โดนโจมตีเสียแล้ว การโจมตีมาจากโดเมนเดียวกัน เราไปลองดู "รายงานผลของการโดนแกล้ง ส่งสแปมลิงค์จำนวนมากให้กับเวบไซต์ของเรา"

ลองมาดูว่าเรามีวิธีตรวจเช็คได้ยังไงสำหรับเคสนี้ ครั้งแรกที่โดนโจมตีในวันที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2558 สแปมลิงค์ที่ผู้เขียนตรวจพบในวันที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2558 ดูจากข้อมูลในเครื่องมือเวบมาสเตอร์ จะเห็นว่าหน้าข้อมูล ลิงก์ไปยังไซต์ของคุณ หน้านี้ไม่มีลิงค์ปกติเลย กล่าวคือเราไม่เคยพบเห็นโดเมนเหล่านี้มาก่อน
ผลของการที่เราไม่ได้ตรวจสอบข้อมูลแบคลิงค์อย่างสม่ำเสมอ ทำให้เวบไซต์ของเราตกไปถึง 30 อันดับและยังตกไปเรื่อยๆ ในทุก ๆ คีย์เวิร์ด สุดท้ายก็จะโดนแบนในที่สุด หากดูจากกราฟจะพบว่ามันดูน่ากลัวมากสำหรับไซต์ที่โดนโจมตี

วิธีแก้ก็ต้องรีบทำโดยการตรวจสอบลิงค์ล่าสุดแล้วเลือกเฉพาะลิงค์ที่เป็นสแปม โดยใช้เครื่องมือ ปฏิเสธลิงค์ https://www.google.com/webmasters/tools/disavow-links-main 

 จากตัวอย่างลิงก์ปฏิเสธ ที่ผู้เขียนทำการอัพเดทไปล่าสุดเมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2015 เวลา 12.17 น. นั้นมีจำนวน 24 โดเมนและ 672 URL ถือว่ามากมายทีเดียวในการทำให้ตำแหน่งของไซต์เราตกรูดไปจากเดิมมาก

สุดท้ายนี้ผู้เขียนจะได้รวบรวมข้อมูลที่เป็นประโยชน์แลกเปลี่ยนประสพการณ์ เพื่อแก้ปัญหา เป็นบทเรียนที่ดีสำหรับหลาย ๆ คนที่ยังไม่เคยผ่านมาก่อน จะได้แก้ไขปัญหาต่าง ๆได้อย่างถูกต้อง อย่างน้อยก็ทราบขั้นตอนการตรวจสอบ วิธีการแก้ไข ผลของเหตุการณ์ที่พบเจอ นอกจากนี้ผู้เขียนยังได้มีเวบบล็อกสำหรับแนะนำสถานที่เดินทาง ร้านอาหารอร่อย รวมถึงที่พักที่ได้ไปสัมผัสจริงในราคาที่สมเหตุผล ตามเวบไซต์ http://www.vntravelsupport.com ไว้ลองเข้าไปดูชมกัน

วันพุธที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2558

อัพเดทสถานการณ์เวบไซต์ หลังจากผ่านไป 9 สัปดาห์ หลังจากโดนลิงค์สแปมจากเวบไซต์คู่แข่ง

ยินดีต้อนรับสู่เวบบล็อกของคนทำ SEO มือใหม่ทุก ๆ ท่าน ผู้เขียนเองก็จัดว่าเป็นหนึ่งในนั้น ต้องลองผิดลองถูกไปหากเรื่องราวใดที่ได้พบเจอด้วยตนเองก็จะได้นำมาบอกกล่าวถึงขั้นตอนการปฏิบัติ ในแต่ละครั้งก็จะมีเรื่องราวดี ๆ มานำเสนอกันอยู่สม่ำเสมอ ปัญหาล่าสุดของเวบไซต์ทำเงินของผู้เขียนก็คือการโดนโจมตีด้วยลิงค์สแปมจากเวบไซต์คู่แข่งมากกว่า 550 ลิงค์ เล่นกันว่าตาลายกันทีเดียวในขั้นตอนการตรวจสอบ

อัพเดทสถานการณ์เวบไซต์ หลังจากผ่านไป 9 สัปดาห์ หลังจากโดนลิงค์สแปมจากเวบไซต์คู่แข่ง ในเนื้อหาตอนที่แล้วที่ผู้เขียนได้ส่งโดเมนยกเลิกลิงค์ไปตั้งแต่วันที่ 26 สิงหาคม พ.ศ.2558 ที่ผ่านมาเรามาทบทวนเหตุการณ์กันก่อน

18 สิงหาคม พ.ศ. 2558 มีการส่งลิงค์สแปมเพิ่มขึ้นผิดปกติกว่า 550 ลิงค์
19 สิงหาคม -26 กันยายน พ.ศ. 2558 พบว่าอันดับเวบไซต์เริ่มตกลงจากการมอนิเตอร์ คีย์เวิร์ดหลักโดยเวบคู่แข่งแซง หลังจากที่ไม่เคยทำได้เลยในระยะเวลากว่า 6 เดือน ผู้เขียนอยู่ในระหว่างการหาสาเหตุ ในช่วงเวลานี้มีเวบไซต์ของผู้เขียนโดเมนหมดอายุ และต่อไม่ทันก็เลยมุ่งแก้ไขในส่วนนั้น จนทุกอย่างเริ่มเข้าที่เข้าทาง แต่แปลกที่อันดับย่ำอยู่กับที่และตกลงเรื่อย ๆ
27 กันยายน พ.ศ. 2558 ผู้เขียนเพิ่งค้นพบว่ามีผู้ไม่ประสงค์ดี หรือเวบคู่แข่งโจมตีด้วยการส่งลิงค์สแปมจากการใช้เครื่องมือเวบมาสเตอร์ วันเดียวกันนี้เอง ผู้เขียนไม่รอช้าทำการศึกษาเรื่องการยกเลิกลิงค์และส่งข้อมูลเข้าไปอัพเดทใหม่ทันที แต่ในครั้งนี้ทำได้เฉพาะส่งโดเมนที่เป็นสแปมไปถึง 22 โดเมน http://www.thaiseoservices.com/2015/09/disavow-link.html
4 ตุลาคม พ.ศ. 2558 พบร่องรอยความเสียหายจากการโดนโจมตี อันดับของเวบไซต์ ตกลงไปอย่างน้อย 11 ตำแหน่งในแต่ละคีย์เวิร์ด และอันดับยังไม่มีวี่แววว่าจะกลับมาดีเหมือนเดิม แต่ยังโชคดีที่ยังไม่ต้องลงไปมากกว่านี้ สแปมโจมตีเฉพาะรูทโดเมน ส่วนหน้ารองยังทำคะแนนได้ดีอยู่
6 ตุลาคม พ.ศ.2558 สถานการณ์บังคับให้ต้องแก้ไขเพิ่มเติม เพราะอันดับยังไม่มีการเปลี่ยนแปลง สิ่งที่กังวลใจที่สุดก็คือหากดำเนินการแก้ไขผิดพลาดเวบไซต์โดนแบน กู่ไม่กลับกันเลยทีเดียว ในวันนี้เองผู้เขียนจัดการดาวน์โหลดลิงค์ล่าสุดโดยใช้เครื่องมือเวบมาสเตอร์ของกูเกิล และค่อยๆ เลือกลิงค์ที่ไม่ใช่สแปมออกตั้งแต่หลังวันที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2558 เป็นต้นมา หลังจากได้เฉพาะสแปมลิงค์กว่า 550 ลิงค์ก็รีบดำเนินการอัพเดทการยกเลิกลิงค์เข้าไปใหม่
7 ตุลาคม พ.ศ.2558 เหตุร้ายเริ่มคลี่คลาย เวบไซต์เริ่มขยับตำแหน่งไปในทิศทางที่ดีขึ้น คีย์เวิร์ดบางตัวสามารถแซงคู่แข่งกลับมาที่เดิมได้ แต่ยังไม่ค่อยสบายใจ กรอปกับผู้เขียนได้สมัครใช้บริการ Majestic Site Explorrer ช่วยหาลิงค์สแปมเพิ่มเลยทำการยกเลิกลิงค์เพิ่มไปอีกรวมเป็นสแปมลิงค์กว่า 580 ลิงค์ทีเดียว

สรุปว่าขั้นตอนการดำเนินการที่ถูกต้องแม่นยำย่อมเป็นการแก้ปัญหาได้ตรงจุด และลดความสูญเสียที่อาจจะเกิดขึ้นได้ อย่างน้อยอันดับตกจำนวนลูกค้าก็ลดลง หากพลาดพลั้งเวบไซต์โดนแบนเข้าไปอีก พนักงานบริษัทฯหลายสิบคนที่มีลูกและภรรยาดูแลต้องได้รับผลกระทบไม่มาก็น้อย การใช้วิธีการโจมตีเวบไซต์คู่แข่งแบบสายดำเป็นสิ่งที่ต้องขอประณามและสาปแช่ง

ผู้เขียนยังมีเวบไซต์ credit-thai.com ให้บริการเรื่องราวบล็อกดี ๆ ทำเองได้ ประหยัดเงิน คุ้มค่าเวลา ผ่านการทดสอบมาแล้วไม่ต้องลองผิดลองถูกด้วยตนเอง หากต้องการให้ผู้เขียนแนะนำสินค้าหรือรีวิวอุปกรณ์ก็ยินดีเป็นอย่างยิ่งครับ


วันอาทิตย์ที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2558

อัพเดทสถานการณ์เวบไซต์โดนคู่แข่งส่งสแปมลิงค์ ผ่านไป 8 สัปดาห์

หลังจากที่ผู้เขียนโดนเวบไซต์คู่แข่งลองดีส่งสแปมลิงค์ไปยังเวบไซต์ผ่านไป 8 สัปดาห์เราไปติดตามดูกันว่าผลกระทบรุนแรงมากน้อยเพียงใด ผู้เขียนตรวจสอบลิงค์ผิดปกติที่เริ่มเข้ามาในระบบเริ่มต้นวันที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2558 ใกล้เคียงกับบิ๊กบอมครั้งรุนแรงที่สุดที่แยกราชประสงค์ทีเดียว แถมวันเกิดเหตุยังห่างกันแค่เพียงวันเดียวอีกด้วย ยังไงผู้เขียนขอประณามผู้ก่อเหตุและขอแสดงความเสียใจกับญาติพี่น้องผู้สูญเสียมา ณ โอกาสนี้ด้วย

มาลองติดตามสถานการณ์ของเวบไซต์ผู้เขียนกัน หลังจากที่โดนลิงค์สแปมไปมากมายถึง 550 ลิงค์ดูว่าอันดับตกลงไปมากน้อยเพียงใด จากโปรแกรมมอนิเตอร์จะพบว่ามีอย่างน้อย 11 คีย์เวิร์ดที่ตกลงไปจากเดิมในระยะเวลา 1 เดือน








อันดับที่ตกลงนี้ยังไม่มั่นใจว่าจะถึงจุดต่ำสุดหรือยัง เมื่ออาทิตย์ก่อนผู้เขียนได้ทำการยกเลิกลิงค์และโดเมนสแปมเหล่านี้ออกไปแล้ว แต่การยกเลิกลิงค์สแปมอาจต้องรอเวลาอย่างน้อย 2-3 เดือนทีเดียว เพื่อติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด จะได้นำมาประเมินวิธีการแก้ปัญหาที่อาจพบเจอได้ในอนาคต

อย่างไรก็ตามลิงค์สแปมเหล่านี้เป็นอันตรายมากสำหรับเวบไซต์ปกติ เพราะหากเราไม่สามารถแก้ไขได้ทันท่วงทีหรือแก้ไขผิดวิธี อาจทำให้เวบไซต์ของเราต้องถูกแบนไปได้ในที่สุด เหมือนการถูกโจมตีโดยผู้ไม่ประสงค์ดีจากคู่แข่งของเรา ทุกวันนี้ยังไม่มีวิธีป้องกันการกลั่นแกล้ง ก็คงได้แต่ภาวนาว่า "ความดีจะคงอยู่แบบยั่งยืน" ส่วนใครที่คิดร้ายขอสาปแช่งให้มีอันเป็นไปในสามวันเจ็ดวัน

ผู้เขียนได้เปิดให้บริการเวบไซต์ใหม่ gps thai ศูนย์กลางการแนะนำกลเม็ด เคล็ดลับอันเป็นประโยชน์ สำหรับผู้ให้บริการ ระบบจีพีเอสติดตามรถ โดยทีมวิศวกรมืออาชีพ ผ่านการติดตั้งอุปกรณ์มากว่าหนึ่งพันคัน บอกได้ถึงข้อดี ข้อเสียของอุปกรณ์แทบทุกรุ่นที่วางจำหน่ายในบ้านเรา หากมีปัญหาการใช้งานระบบจีพีเอสติดตามรถยนต์ดังกล่าว ลองเข้าไปศึกษาดู ผู้เขียนยังยืนยันคำเดิม "GPS TRACKER ไม่ใช่เรื่องผจญภัย หรือลี้ลับใดๆ" อุปกรณ์ดี เซิร์ฟเวอร์แจ่ม รับรองทำงาน 24 ชั่วโมงไม่มีหลุดการเชื่อมต่ออย่างแน่นอนที่สุด

วันอาทิตย์ที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2558

เมื่อสถานการณ์บีบบังคับให้ใช้เครื่องมือปฏิเสธลิงค์(disavow link) มือใหม่ต้องทำยังไง

ยินดีต้อนรับสู่เวบบล็อกของคนทำ SEO ด้วยตัวเองเป็นมุมมองอีกด้านหนึ่งของนักพัฒนาเวบไซต์ที่ยากจะหลีกเลี่ยงได้ ผู้เขียนได้ห่างเหินจากการอัพเดทข้อมูลเป็นเวลานานเพราะว่าตำแหน่งของเวบไซต์ที่ผู้เขียนดูแลอยู่รักษาอันดับและยืนระยะมาได้ถึง 6 เดือน พอเข้าเดือนที่ 7 สถานการณ์ตำแหน่งเริ่มเปลี่ยนแปลงมีเวบไซต์คู่แข่งแซงขึ้นมาถึง 2 เวบไซต์ด้วยกันแต่ต่างกันที่คำค้นหา(keyword) ผู้เขียนเองก็ได้กลับเข้ามาเฝ้าระวังเริ่มตั้งแต่อัพเดทเวบไซต์ใหม่ เพิ่มบทความที่เป็นประโยชน์เพื่อสนับสนุนเวบไซต์ตัวเอง ลองทำไปมามากกว่า 2 สัปดาห์อันดับก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะดีขึ้น งานยากเริ่มมาปรากฏให้เห็นอีกครั้งหนึ่งแล้ว

ครั้นเปิดหน้าเครื่องมือของกูเกิลเข้าไปตรวจสอบกลับพบว่ามี backlinks ผิดปกติจำนวนมาก กล่าวคือแบล็กลิงค์เหล่านั้นไม่เคยรู้จักมาก่อน แถมพอเปิดลิงค์เข้าไปตรวจสอบยิ่งน่าประหลาดใจเพราะbacklinksเหล่านั้นไม่มีจริง แถมยังขึ้นข้อความดังแสดงให้ดูดังรูป
ข้อความตามตัวอย่างแสดงคำว่า "Bandwidth Limit Exceeded" ที่สำคัญลิงค์เหล่านี้ผู้เขียนไม่เคยรู้จักมีมากมายกว่า 200 ลิงค์ทีเดียว หรือว่าใครเล่นกลกับเราซะแล้ว การโจมตีเวบคู่แข่งด้วยวิธีนี้ผู้เขียนไม่สนับสนุนให้ทำ ทุกเวบไซต์ควรจะเคารพกติกา ไม่ใช่หาวิธีขึ้นหน้าไม่ได้ก็ใช้วิธีสกปรกสอยเค้าลงมา ซึ่งผิดจรรยาบรรณเป็นอย่างยิ่ง

ขั้นตอนการแก้ไขก็ไม่ต้องทำอะไรมากเพียงแค่เข้าไปใช้เครื่องมือปฏิเสธลิงค์(disavow link) ตามคำแนะนำของ google

อัปโหลดรายการลิงก์ที่จะปฏิเสธ

  1. ไปที่หน้าเครื่องมือปฏิเสธลิงก์
  2. เลือกเว็บไซต์ของคุณ
  3. คลิก ปฏิเสธลิงก์
  4. คลิก เลือกไฟล์

สำหรับตัวอย่างไฟล์ที่ต้องส่งเข้าไปก็มีรูปแบบดังนี้
#example.com removed most links, but missed these
#http://spam.example.com/stuff/comments.html
#http://spam.example.com/stuff/paid-links.html
# Contacted owner of others domain on 20/9/2015 to
# ask for link removal but got no response
domain:100-paleo-recipes.com
domain:lubanwaterheating.com
domain:thetreeremovalnetwork.com


จากตัวอย่างผู้เขียนทำการปฏิเสธลิงค์ในทุกๆ โดเมนที่เข้ามาสร้างปัญหาให้กับเวบไซต์ที่ดูแลอยู่ส่วนผลลัพธ์และตำแหน่งทางกูเกิลบอกว่าต้องให้เวลาอย่างน้อย 2-3 เดือนทีเดียว เข้าใจว่าการใช้เครื่องมือปฏิเสธลิงค์มีข้อระมัดระวังในการใช้งาน อาจส่งผลกระทบร้ายแรงกับระบบได้ 

ผู้เขียนต้องขอขอบพระคุณ บจก.ไทย พรอสเพอรัส ไอที เอื้อเฟื้อพื้นที่เวบไซต์ดีๆ ให้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน นอกจากนี้บจก. ไทย พรอสเพอรัส ไอที ยังเป็นผู้นำในด้านการจำหน่ายอุปกรณ์ GPS TRACKER จากโรงงานผู้ผลิตโดยตรง มั่นใจได้ในคุณภาพและบริการหลังการขาย

วันอาทิตย์ที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2558

เมื่อกูเกิลแจ้งเตือนว่า Googlebot cannot access CSS and JS files

ยินดีต้อนรับสู่เวบบล็อกมาตรฐานการทำ SEO สำหรับวันนี้จะเป็นการแก้ไขปัญหาการแจ้งเตือนของกูเกิลบ็อทไม่สามารถเข้าถึงไฟล์ CSS และ JS ได้ (Googlebot cannot access CSS and JS files) ปัญหานี้เกิดจากการป้องกันในส่วนของ ROBOTS.txt ซึ่งติดตั้งมาตรฐานของ Joomla 2.5

เพื่อให้การดำเนินการแก้ไขเป็นไปได้อย่างถูกต้องและตรงตามการป้องกันปัญหาที่เกิดขึ้นดังกล่าว Google Webmaster Tool ได้แนะนำวิธีแก้ไขปัญหาไว้ดังนี้

ขั้นตอนที่ 1 ให้เปิดลิงค์ต่อไปนี้เพื่อทำการดึงค่า url สำหรับ Webmaster dashboard >> Crawl >> Fetch as Google. จากนั้นให้เลือก ดึงข้อมูลและแสดงผล(fetch and display)

ขั้นตอนที่ 2 รอสักครู่เมื่อกูเกิลดึงข้อมูลเรียบร้อยสมบูรณ์แล้วจะส่งลิงค์ สถานะ >> บางส่วน








 ขั้นตอนที่ 3 หลังจากคลิกไปที่ สถานะ >> บางส่วน


ขั้นตอนที่ 4 เราจะสังเกตเห็นว่ามีการบล็อก CSS และ JS ตามรูปข้างต้น ในขณะเดียวกันเราสามารถทดสอบลิงค์ข้างต้นได้ด้วยว่ามีการบล็อกจากเงื่อนไขใดบนไฟล์ ROBOTS.txt จากตัวอย่างมีการบล็อกในส่วนของ /media ผู้เขียนก็เลยทำการอนุญาตในส่วนของ CSS และ JS เฉพาะที่จำเป็น

Allow:    /media/com_hikashop/css
Allow:    /media/system/js


สรุปว่าการแก้ไขการเข้าถึงของกูเกิลบ็อทสามารถทำได้ไม่ยาก แต่ผลของการกระทำดังกล่าวยังมีความสำคัญอย่างยิ่งเพราะเมื่อกูเกิลบ็อทสามารถเข้าไปสืบค้นข้อมูลบนเวบไซต์ได้มากขึ้น ปัญหาใหญ่สำหรับคนทำ SEO อีกเรื่องหนึ่งก็คือ การที่หัวเรื่องซ้ำกัน หรือการมีคำอธิบายหน้าเพจซ้ำกัน เป็นต้น อย่างไรก็ตามผู้เขียนจะได้ทำการอัพเดทปัญหาอื่นๆอีกที่พบเจอกันอีกครั้งหนึ่ง บทความในวันนี้สำเร็จลุล่วงลงได้ด้วยดีก็เพราะบริษัทไทย พรอสเพอรัส ไอที จำกัด ผู้นำด้านการให้บริการ gps tracker เลือกสินค้าคุณภาพ ได้มาตรฐาน มั่นใจได้ว่าเป็นของแท้ 100%  ต้องสั่งจากที่นี่เท่านั้น





วันศุกร์ที่ 2 มกราคม พ.ศ. 2558

baidu เตรียมบุกไทยอย่างเป็นทางการกลางปี 2558


เสิร์ช เอนจิ้นจีนบุกไทยแน่กลางปีนี้


ตัวเทคโนโลยีเสิร์ช เอนจิ้น ของไป่ตู้มีแผนจะเปิดตัวในประเทศไทยอย่างเป็นทางการกลางปี 2558 โดยรองรับทั้งการใช้งานผ่านคอมพิวเตอร์พีซีและอุปกรณ์สื่อสารแบบพกพา
วันศุกร์ 2 มกราคม 2558 เวลา 01:41 น.
ประชากรชาวจีนที่มากถึง 1,300 ล้านคน ทำให้ “ไป่ตู้” www.baidu.com กลายเป็นเสิร์ช เอนจิ้น (เครื่องมือค้นหาข้อมูลทางอินเทอร์เน็ต) ภาษาจีนที่มีสัดส่วนการครองตลาดผู้ใช้ในจีนถึง 95% มีผู้เข้าชมจากทั่วโลกมากกว่า 500 ล้านคน/วัน และมีการเสิร์ชมากถึง 6,000 ล้านครั้ง/วัน ด้วยการค้นหาผ่านช่องทางดังกล่าว
แม้เครื่องมือค้นหา ข้อมูลทางอินเทอร์เน็ตในโลกมีกว่า 20 ตัว แต่มีประเทศผู้พัฒนาและเป็นเจ้าของเครื่องมือเสิร์ช เอนจิ้น อยู่ 4 ประเทศ ได้แก่ เสิร์ช เอนจิ้นของไป่ตู้ (Baidu) ประเทศจีน , กูเกิล (Google), บิง (Bing) และยาฮู (Yahoo) ของอเมริกา, เนเวอร์ (Naver) ของไลน์ ประเทศเกาหลี และ Yandex ของรัสเซีย
สำหรับประเทศไทย แม้ “ไป่ตู้” จะเข้ามาบุกตลาดได้ราว 3 ปี หรือเมื่อปลายปี 2554 แต่เทคโนโลยีค้นหาข้อมูลทางอินเทอร์เน็ตหรือ “เสิร์ช เอนจิ้น” ยังไม่เปิดตัว “นางชฎากร ธนสุวรรณเกษม” ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายปฏิบัติการไป่ตู้ ประเทศไทย กล่าวว่า ตัวเทคโนโลยีเสิร์ช เอนจิ้น ของไป่ตู้มีแผนจะเปิดตัวในประเทศไทยอย่างเป็นทางการกลางปี 2558 โดยรองรับทั้งการใช้งานผ่านคอมพิวเตอร์พีซีและอุปกรณ์สื่อสารแบบพกพา ซึ่งการพัฒนาเทคโนโลยีเสิร์ช เอนจิ้นในไทย เริ่มมาพร้อมๆ กับการพัฒนาบริการตัวอื่นๆ ของไป่ตู้ แต่เนื่องจากการพัฒนาตัวเสิร์ช เอนจิ้นต้องใช้ข้อมูลมากจึงใช้เวลาในการเก็บข้อมูลนาน
ปัจจุบันตัว เสิร์ช เอนจิ้น ของไป่ตู้ในประเทศไทย www.baidu.co.th เป็นเวอร์ชั่นที่ทดลองใช้งาน มีความโดดเด่นอยู่ที่มีการเสนอข้อมูลมากกว่าลิงค์ เช่น มีไฟล์เพลงแนบมาด้วย นอกจากนี้ เสิร์ช เอนจิ้น ที่ไป่ตู้ไทยพัฒนาอิงข้อมูลจากพฤติกรรมกลุ่มผู้ใช้งานที่หลากหลาย และพยายามค้นหาพฤติกรรมเพื่อสร้างการค้นหาข้อมูลให้ตอบสนองกับวิถีชีวิตของ คนไทย เช่น สามารถค้นหาผลตรวจสลากกินแบ่งรัฐบาลได้ สำหรับตัวเสิร์ช เอนจิ้น ของไป่ตู้ มีเซิร์ฟเวอร์อยู่ที่ฮ่องกง หากประเทศไทยมีการใช้งานเป็นจำนวนมากก็มีแนวโน้มที่จะมาตั้งเซิร์ฟเวอร์ใน ไทย
“บทบาทของไป่ตู้ ประเทศไทย คือ ศึกษาพฤติกรรมของผู้ใช้งาน เพื่อพัฒนาบริการที่ตอบสนองรูปแบบการใช้ชีวิตของคนไทย โดยพฤติกรรมของคนไทยชอบเล่นโซเชียลมีเดีย ซึ่งปีนี้ไป่ตู้มีแผนที่จะเปิดตัวผลิตภัณฑ์ที่บุกตลาดโมบายมากขึ้น” นางชฎากร กล่าว
ตลอด 3 ปีที่ไป่ตู้เข้ามาทำตลาดในประเทศไทย ได้เปิดผลิตภัณฑ์ให้คนออนไลน์ใช้งานแล้ว 8 ตัว ได้แก่ เครื่องมือเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของคอมพิวเตอร์ฟรี (Baidu PC Faster) , แอนตี้ไวรัสและระบบความปลอดภัยแบบคลาวด์ (Baidu Antivirus), เว็บบราวเซอร์ฟรีสำหรับคอมพิวเตอร์ ที่มาพร้อมโซเชียลมีเดียและระบบทางด้านวิดีโอ (สำหรับระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์) (Baidu Spark Browser), บราวเซอร์ฟรี (Baidu Browser), แอพพลิเคชั่นฟรีที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและทำความสะอาดที่จะช่วยทำให้สมาร์ท โฟนเร็วขึ้น 60% (Du Speed Booster), แอพพลิเคชั่นฟรีที่ช่วยยืดและปรับปรุงการใช้งานของแบตเตอรี่โทรศัพท์มือถือ แอนดรอยด์ (Du Battery Saver), เว็บบริการเว็บลิงค์ (Hao123) และโปรแกรมแต่งรูปในโทรศัพท์มือถือ (PhotoWonder)
นางชฎากร กล่าวว่า ประเทศไทยมีเครื่องคอมพิวเตอร์พีซี 12 ล้านเครื่อง พบว่ามีการใช้เครื่องมือเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของคอมพิวเตอร์ฟรี (Baidu PC Faster) จำนวน 5 ล้านเครื่อง, แอนตี้ไวรัสและระบบความปลอดภัยแบบคลาวด์ (Baidu Antivirus) จำนวน 2 ล้านเครื่อง และเว็บบราวเซอร์ฟรีสำหรับคอมพิวเตอร์ ที่มาพร้อมโซเชียลมีเดียและระบบทางด้านวิดีโอ (สำหรับระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์) (Baidu Spark Browser) จำนวน 2 ล้านเครื่อง ส่งผลให้มีการใช้บริการของไป่ตู้จากคอมพิวเตอร์พีซีเกิน 50% ของคอมพิวเตอร์พีซีที่ใช้งานอยู่ในประเทศไทย
“นายริชาร์ด ลี” ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดต่างประเทศ ของไป่ตู้ กล่าวว่า นอกจากบริการเสิร์ช เอนจิ้นที่ถือเป็นบริการหลักของไป่ตู้แล้ว ไป่ตู้ยังมีบริการที่อิงข้อมูลจากเสิร์ช เอนจิ้น เชิงลึกอีกหลายบริการ เช่น แผนที่ การค้นหาด้วยรูปภาพ การค้นหาด้วยวิดีโอ การค้นหาจากข่าว และอื่นๆ
“การ ทำตัวเสิร์ช เอนจิ้น ต้องรองรับทุกแพลตฟอร์มของทุกอุปกรณ์การใช้งาน และต้องมีข้อมูลที่พร้อมจะเชื่อมต่อการใช้งาน ซึ่งในประเทศไทยกลางปีนี้จะเปิดให้บริการเสิร์ช เอนจิ้นในส่วนของเครื่องคอมพิวเตอร์พีซี และโทรศัพท์มือถือก่อน ส่วนบริการอื่นๆ ต้องดูความพร้อม เช่น การค้นหาด้วยเสียง และภาพ” นายริชาร์ด กล่าว
นายริชาร์ด กล่าวต่อว่า การเลือกประเทศที่จะไปลงทุน ไป่ตู้จะดูจากเรื่องของการเมือง การเติบโตของเศรษฐกิจ และการเติบโตของอินเทอร์เน็ต ซึ่งประเทศไทยเป็นประเทศที่มีความพร้อมในเรื่องดังกล่าว ขณะที่ประเทศในแถบอาเซียนมีการเติบโตในด้านบวก ส่งผลให้มีหลายๆ ประเทศเข้ามาทำตลาดในอาเซียนมากขึ้น และจีนก็จะเข้ามาทำตลาดด้วย โดยปี 2558 ไป่ตู้จะทำตลาดไทยกับอินโดนีเซีย รวมทั้งจะเปิดตลาดในอินเดียด้วย
กลาง ปี 2558 คนไทยจะมีเสิร์ช เอนจิ้น ไป่ตู้ เป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการใช้ค้นหาข้อมูลทางอินเทอร์เน็ต หลังจากปัจจุบันคนไทยค้นหาข้อมูลทางอินเทอร์เน็ตผ่านกูเกิลถึง 99%
น้ำเพชร จันทา
@phetchan

........................................................................................
ปัญหาที่ไป่ตู้ต้องเร่งแก้ไข
ระหว่าง รอการพัฒนาเสิร์ช เอนจิ้น ฉบับคนไทยให้สมบูรณ์ ตลอด 3 ปีที่ผ่านมา “ไป่ตู้” ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ 8 ตัว นำร่องให้คนไทยได้ใช้งานและสร้างชื่อไป่ตู้ให้คนไทยได้รู้จัก ได้แก่ เครื่องมือเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของคอมพิวเตอร์ฟรี (Baidu PC Faster) , แอนตี้ไวรัสและระบบความปลอดภัยแบบคลาวด์ (Baidu Antivirus), เว็บบราวเซอร์ฟรีสำหรับคอมพิวเตอร์ ที่มาพร้อมโซเชียลมีเดียและระบบทางด้านวิดีโอ (สำหรับระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์) (Baidu Spark Browser), บราวเซอร์ฟรี (Baidu Browser), แอพพลิเคชั่นฟรีที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและทำความสะอาดที่จะช่วยทำให้สมาร์ท โฟนเร็วขึ้นถึง 60% (Du Speed Booster), แอพพลิเคชั่นฟรีที่ช่วยยืดและปรับปรุงการใช้งานของแบตเตอรี่โทรศัพท์มือถือ แอนดรอยด์ (Du Battery Saver), เว็บบริการเว็บลิงค์ (Hao123) และโปรแกรมแต่งรูปในโทรศัพท์มือถือ (PhotoWonder)
ทว่าผลตอบรับที่ได้ มีทั้งบวกและลบ ด้านบวกคือ ผลิตภัณฑ์ที่ไป่ตู้เปิดตัวแม้จะเป็นการมุ่งเจาะตลาดคอมพิวเตอร์พีซี แต่ก็สามารถเข้าถึงกลุ่มผู้ใช้งานได้มากกว่า 50% ของจำนวนเครื่องพีซีที่มีการใช้งาน 12 ล้านเครื่องในประเทศไทย
ส่วนผล ลบที่ตามมาคือ การเร่งสร้างชื่อให้เป็นที่จดจำในตลาด ซึ่งต้องพึ่งพันธมิตร ทำให้เกิดภาพลักษณ์ในเชิงลบกับผลิตภัณฑ์ของไป่ตู้ ในเรื่องของการถอดโปรแกรมออกจากเครื่องได้ยาก!
“นางชฎากร ธนสุวรรณเกษม” ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายปฏิบัติการไป่ตู้ ประเทศไทย กล่าวว่า เสียงบ่นเกี่ยวกับการถอดโปรแกรมไป่ตู้ออกจากเครื่องคอมพิวเตอร์พีซียากนั้น ทางไป่ตู้ประเทศไทยได้ดำเนินการแก้ไขแล้วที่ต้นเหตุ เนื่องจากไป่ตู้ประเทศไทยมีการร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจเพื่อให้ช่วยทำ ตลาด และมีการลงนามในสัญญาร่วมกับผู้ผลิตโดยให้ค่าตอบแทนเมื่อพันธมิตรหาลูกค้า ที่ใช้งานโปรแกรมของไป่ตู้ได้มากเป็นแรงจูงใจ จึงเป็นช่องว่างทำให้เกิดการลงโปรแกรมของไป่ตู้โดยทำให้ถอดโปรแกรมออกยาก ซึ่งพบว่ามีการนำผลิตภัณฑ์ของไป่ตู้ไปผูกกับตัวเครื่องและทำให้ผู้ใช้งานถอด ออกยาก เพื่อจะได้ส่วนแบ่งค่าตอบแทน เมื่อไป่ตู้ได้รับการร้องเรียนเข้ามาทั้งจากคอลล์เซ็นเตอร์และเฟซบุ๊ก จึงได้ตรวจสอบเมื่อพบว่าเป็นความจริงได้ยกเลิกสัญญากับพันธมิตรที่ทำผิดข้อ ตกลงไปแล้วหลายราย ส่วนการแนะนำผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ของไป่ตู้ จะใช้วิธีแนะนำกับคนที่ใช้ไป่ตู้อยู่แล้ว
“ช่วง 3-4 เดือนที่ผ่านมาไป่ตู้ตั้งหน่วยงานใหม่ในไทย ทำหน้าที่ทดลองดาวน์โหลดในสิ่งที่ลูกค้าแจ้งเข้ามา หรือร้องเรียนเข้ามาเพื่อหาต้นตอของปัญหาที่เกิดขึ้น ทำให้สามารถแก้ปัญหาได้ตรงจุดและลดปริมาณของปัญหาที่เคยเกิดขึ้นได้มาก” นางชฎากร กล่าว
........................................................................................
ทำความรู้จัก “ไป่ตู้”
“ไป่ ตู้” เป็นบริษัทสัญชาติจีน ก่อตั้งเมื่อปี 2543 หรือ 14 ปีที่แล้ว โดย นายโรบิน ลี ซึ่งชื่อ“ไป่ตู้” มีความหมายว่า “การค้นหาสิ่งที่ดีที่สุดอย่างไม่ย่อท้อ” เน้นให้บริการเรื่องของเทคโนโลยีเสิร์ช เอนจิ้น (ค้นหาข้อมูลทางอินเทอร์เน็ต) เป็นหลัก และนำเสนอวิธีการค้นหาข้อมูลเพื่อเชื่อมโยงผู้ใช้กับบริการอื่นๆ มีสัญลักษณ์ เป็น “อุ้งเท้าหมี” หมายถึงการค้นหาการตามหาแนวคิดในการสร้าง “ไป่ตู้” ของนายโรบิน ลี เกิดจากความต้องการทำให้การเข้าถึงข้อมูลเป็นเรื่องง่าย ปี 2557 ไป่ตู้มีพนักงานทั้งหมด 40,500 คน โดย 50% ของจำนวนพนักงาน เป็นพนักงานในส่วนของการวิจัยและพัฒนา อายุเฉลี่ยของพนักงานอยู่ที่ 23 ปี
ตั้งแต่ปี 2554 “ไป่ตู้” เข้าสู่โลกของธุรกิจมากขึ้น โดยเปิดตลาดและตั้งสำนักงานที่ประเทศญี่ปุ่น บราซิล ไทย และอียิปต์
สำหรับ อาณาจักรของ “ไป่ตู้” ตั้งอยู่ที่จงกวานชวน หรือที่เรียกว่า ซิลิคอน วัลเล่ย์ ของประเทศจีน ในส่วนของซอฟต์แวร์พาร์ค โดยสำนักงานใหญ่ของ “ไป่ตู้” มีชื่อว่า “ไป่ตู้ แคมปัส”
ปัจจุบันมูลค่าไป่ตู้ในตลาดหลัก ทรัพย์อยู่ที่ 7-8 หมื่นล้านเหรียญ โดยรายได้ของไป่ตู้ ไตรมาส 3 ปี 2557 อยู่ที่ 2.2 พันล้านเหรียญ ส่วนใหญ่เป็นรายได้จากในประเทศจีน ซึ่ง 36% มาจากการโฆษณาออนไลน์ ขณะที่ 4 ธุรกิจหลักที่ไป่ตู้มุ่งเป้าไว้ คือ1.เสิร์ช เอนจิ้น 2.คลาวด์ 3.การบริการแผนที่ทั้งหมด และ4.ธุรกิจระหว่างประเทศ
ส่วน เว็บไซต์ของไป่ตู้ www.baidu.com ถือเป็นเว็บไซต์ภาษาจีนที่ใหญ่ที่สุดในโลก หากนับรวมทุกภาษาจะเป็นเว็บไซต์ที่ใหญ่เป็นอันดับ 5 ของโลก ปัจจุบัน “ไป่ตู้” ถือเป็นเครื่องมือค้นหาข้อมูลทางอินเทอร์เน็ตที่มียอดการใช้งานเป็นอันดับ หนึ่งของจีน ด้วยการใช้งานสูงสุดถึง 72% รองลงมาคือเครื่องมือค้นหาข้อมูลของกูเกิ้ล 10 % และเครื่องมือค้นหาข้อมูลของ 360 อีก 10%
ประเทศจีนมีจำนวนผู้ใช้อิน เทอร์เน็ตสูงที่สุดในโลกอยู่ที่ 618 ล้านคน (ตัวเลขสิ้นปี 2556) ถึงแม้การใช้งานอินเทอร์เน็ตยังไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกันกับประเทศที่มีการ พัฒนา แต่การใช้งานอินเทอร์เน็ตในประเทศจีนกำลังมีการขยายตัว เนื่องจากจำนวนผู้ใช้อินเทอร์เน็ตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ขอขอบพระคุณหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ และ thailandgpstracker ผู้นำด้านการให้บริการระบบติดตามรถยนต์ครบวงจร ด้วยสินค้าคุณภาพ มาตรฐาน ผ่านการรับรองจากสถาบันชั้นนำต่างๆ ทั่วโลก