วันศุกร์ที่ 2 มกราคม พ.ศ. 2558

baidu เตรียมบุกไทยอย่างเป็นทางการกลางปี 2558


เสิร์ช เอนจิ้นจีนบุกไทยแน่กลางปีนี้


ตัวเทคโนโลยีเสิร์ช เอนจิ้น ของไป่ตู้มีแผนจะเปิดตัวในประเทศไทยอย่างเป็นทางการกลางปี 2558 โดยรองรับทั้งการใช้งานผ่านคอมพิวเตอร์พีซีและอุปกรณ์สื่อสารแบบพกพา
วันศุกร์ 2 มกราคม 2558 เวลา 01:41 น.
ประชากรชาวจีนที่มากถึง 1,300 ล้านคน ทำให้ “ไป่ตู้” www.baidu.com กลายเป็นเสิร์ช เอนจิ้น (เครื่องมือค้นหาข้อมูลทางอินเทอร์เน็ต) ภาษาจีนที่มีสัดส่วนการครองตลาดผู้ใช้ในจีนถึง 95% มีผู้เข้าชมจากทั่วโลกมากกว่า 500 ล้านคน/วัน และมีการเสิร์ชมากถึง 6,000 ล้านครั้ง/วัน ด้วยการค้นหาผ่านช่องทางดังกล่าว
แม้เครื่องมือค้นหา ข้อมูลทางอินเทอร์เน็ตในโลกมีกว่า 20 ตัว แต่มีประเทศผู้พัฒนาและเป็นเจ้าของเครื่องมือเสิร์ช เอนจิ้น อยู่ 4 ประเทศ ได้แก่ เสิร์ช เอนจิ้นของไป่ตู้ (Baidu) ประเทศจีน , กูเกิล (Google), บิง (Bing) และยาฮู (Yahoo) ของอเมริกา, เนเวอร์ (Naver) ของไลน์ ประเทศเกาหลี และ Yandex ของรัสเซีย
สำหรับประเทศไทย แม้ “ไป่ตู้” จะเข้ามาบุกตลาดได้ราว 3 ปี หรือเมื่อปลายปี 2554 แต่เทคโนโลยีค้นหาข้อมูลทางอินเทอร์เน็ตหรือ “เสิร์ช เอนจิ้น” ยังไม่เปิดตัว “นางชฎากร ธนสุวรรณเกษม” ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายปฏิบัติการไป่ตู้ ประเทศไทย กล่าวว่า ตัวเทคโนโลยีเสิร์ช เอนจิ้น ของไป่ตู้มีแผนจะเปิดตัวในประเทศไทยอย่างเป็นทางการกลางปี 2558 โดยรองรับทั้งการใช้งานผ่านคอมพิวเตอร์พีซีและอุปกรณ์สื่อสารแบบพกพา ซึ่งการพัฒนาเทคโนโลยีเสิร์ช เอนจิ้นในไทย เริ่มมาพร้อมๆ กับการพัฒนาบริการตัวอื่นๆ ของไป่ตู้ แต่เนื่องจากการพัฒนาตัวเสิร์ช เอนจิ้นต้องใช้ข้อมูลมากจึงใช้เวลาในการเก็บข้อมูลนาน
ปัจจุบันตัว เสิร์ช เอนจิ้น ของไป่ตู้ในประเทศไทย www.baidu.co.th เป็นเวอร์ชั่นที่ทดลองใช้งาน มีความโดดเด่นอยู่ที่มีการเสนอข้อมูลมากกว่าลิงค์ เช่น มีไฟล์เพลงแนบมาด้วย นอกจากนี้ เสิร์ช เอนจิ้น ที่ไป่ตู้ไทยพัฒนาอิงข้อมูลจากพฤติกรรมกลุ่มผู้ใช้งานที่หลากหลาย และพยายามค้นหาพฤติกรรมเพื่อสร้างการค้นหาข้อมูลให้ตอบสนองกับวิถีชีวิตของ คนไทย เช่น สามารถค้นหาผลตรวจสลากกินแบ่งรัฐบาลได้ สำหรับตัวเสิร์ช เอนจิ้น ของไป่ตู้ มีเซิร์ฟเวอร์อยู่ที่ฮ่องกง หากประเทศไทยมีการใช้งานเป็นจำนวนมากก็มีแนวโน้มที่จะมาตั้งเซิร์ฟเวอร์ใน ไทย
“บทบาทของไป่ตู้ ประเทศไทย คือ ศึกษาพฤติกรรมของผู้ใช้งาน เพื่อพัฒนาบริการที่ตอบสนองรูปแบบการใช้ชีวิตของคนไทย โดยพฤติกรรมของคนไทยชอบเล่นโซเชียลมีเดีย ซึ่งปีนี้ไป่ตู้มีแผนที่จะเปิดตัวผลิตภัณฑ์ที่บุกตลาดโมบายมากขึ้น” นางชฎากร กล่าว
ตลอด 3 ปีที่ไป่ตู้เข้ามาทำตลาดในประเทศไทย ได้เปิดผลิตภัณฑ์ให้คนออนไลน์ใช้งานแล้ว 8 ตัว ได้แก่ เครื่องมือเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของคอมพิวเตอร์ฟรี (Baidu PC Faster) , แอนตี้ไวรัสและระบบความปลอดภัยแบบคลาวด์ (Baidu Antivirus), เว็บบราวเซอร์ฟรีสำหรับคอมพิวเตอร์ ที่มาพร้อมโซเชียลมีเดียและระบบทางด้านวิดีโอ (สำหรับระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์) (Baidu Spark Browser), บราวเซอร์ฟรี (Baidu Browser), แอพพลิเคชั่นฟรีที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและทำความสะอาดที่จะช่วยทำให้สมาร์ท โฟนเร็วขึ้น 60% (Du Speed Booster), แอพพลิเคชั่นฟรีที่ช่วยยืดและปรับปรุงการใช้งานของแบตเตอรี่โทรศัพท์มือถือ แอนดรอยด์ (Du Battery Saver), เว็บบริการเว็บลิงค์ (Hao123) และโปรแกรมแต่งรูปในโทรศัพท์มือถือ (PhotoWonder)
นางชฎากร กล่าวว่า ประเทศไทยมีเครื่องคอมพิวเตอร์พีซี 12 ล้านเครื่อง พบว่ามีการใช้เครื่องมือเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของคอมพิวเตอร์ฟรี (Baidu PC Faster) จำนวน 5 ล้านเครื่อง, แอนตี้ไวรัสและระบบความปลอดภัยแบบคลาวด์ (Baidu Antivirus) จำนวน 2 ล้านเครื่อง และเว็บบราวเซอร์ฟรีสำหรับคอมพิวเตอร์ ที่มาพร้อมโซเชียลมีเดียและระบบทางด้านวิดีโอ (สำหรับระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์) (Baidu Spark Browser) จำนวน 2 ล้านเครื่อง ส่งผลให้มีการใช้บริการของไป่ตู้จากคอมพิวเตอร์พีซีเกิน 50% ของคอมพิวเตอร์พีซีที่ใช้งานอยู่ในประเทศไทย
“นายริชาร์ด ลี” ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดต่างประเทศ ของไป่ตู้ กล่าวว่า นอกจากบริการเสิร์ช เอนจิ้นที่ถือเป็นบริการหลักของไป่ตู้แล้ว ไป่ตู้ยังมีบริการที่อิงข้อมูลจากเสิร์ช เอนจิ้น เชิงลึกอีกหลายบริการ เช่น แผนที่ การค้นหาด้วยรูปภาพ การค้นหาด้วยวิดีโอ การค้นหาจากข่าว และอื่นๆ
“การ ทำตัวเสิร์ช เอนจิ้น ต้องรองรับทุกแพลตฟอร์มของทุกอุปกรณ์การใช้งาน และต้องมีข้อมูลที่พร้อมจะเชื่อมต่อการใช้งาน ซึ่งในประเทศไทยกลางปีนี้จะเปิดให้บริการเสิร์ช เอนจิ้นในส่วนของเครื่องคอมพิวเตอร์พีซี และโทรศัพท์มือถือก่อน ส่วนบริการอื่นๆ ต้องดูความพร้อม เช่น การค้นหาด้วยเสียง และภาพ” นายริชาร์ด กล่าว
นายริชาร์ด กล่าวต่อว่า การเลือกประเทศที่จะไปลงทุน ไป่ตู้จะดูจากเรื่องของการเมือง การเติบโตของเศรษฐกิจ และการเติบโตของอินเทอร์เน็ต ซึ่งประเทศไทยเป็นประเทศที่มีความพร้อมในเรื่องดังกล่าว ขณะที่ประเทศในแถบอาเซียนมีการเติบโตในด้านบวก ส่งผลให้มีหลายๆ ประเทศเข้ามาทำตลาดในอาเซียนมากขึ้น และจีนก็จะเข้ามาทำตลาดด้วย โดยปี 2558 ไป่ตู้จะทำตลาดไทยกับอินโดนีเซีย รวมทั้งจะเปิดตลาดในอินเดียด้วย
กลาง ปี 2558 คนไทยจะมีเสิร์ช เอนจิ้น ไป่ตู้ เป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการใช้ค้นหาข้อมูลทางอินเทอร์เน็ต หลังจากปัจจุบันคนไทยค้นหาข้อมูลทางอินเทอร์เน็ตผ่านกูเกิลถึง 99%
น้ำเพชร จันทา
@phetchan

........................................................................................
ปัญหาที่ไป่ตู้ต้องเร่งแก้ไข
ระหว่าง รอการพัฒนาเสิร์ช เอนจิ้น ฉบับคนไทยให้สมบูรณ์ ตลอด 3 ปีที่ผ่านมา “ไป่ตู้” ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ 8 ตัว นำร่องให้คนไทยได้ใช้งานและสร้างชื่อไป่ตู้ให้คนไทยได้รู้จัก ได้แก่ เครื่องมือเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของคอมพิวเตอร์ฟรี (Baidu PC Faster) , แอนตี้ไวรัสและระบบความปลอดภัยแบบคลาวด์ (Baidu Antivirus), เว็บบราวเซอร์ฟรีสำหรับคอมพิวเตอร์ ที่มาพร้อมโซเชียลมีเดียและระบบทางด้านวิดีโอ (สำหรับระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์) (Baidu Spark Browser), บราวเซอร์ฟรี (Baidu Browser), แอพพลิเคชั่นฟรีที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและทำความสะอาดที่จะช่วยทำให้สมาร์ท โฟนเร็วขึ้นถึง 60% (Du Speed Booster), แอพพลิเคชั่นฟรีที่ช่วยยืดและปรับปรุงการใช้งานของแบตเตอรี่โทรศัพท์มือถือ แอนดรอยด์ (Du Battery Saver), เว็บบริการเว็บลิงค์ (Hao123) และโปรแกรมแต่งรูปในโทรศัพท์มือถือ (PhotoWonder)
ทว่าผลตอบรับที่ได้ มีทั้งบวกและลบ ด้านบวกคือ ผลิตภัณฑ์ที่ไป่ตู้เปิดตัวแม้จะเป็นการมุ่งเจาะตลาดคอมพิวเตอร์พีซี แต่ก็สามารถเข้าถึงกลุ่มผู้ใช้งานได้มากกว่า 50% ของจำนวนเครื่องพีซีที่มีการใช้งาน 12 ล้านเครื่องในประเทศไทย
ส่วนผล ลบที่ตามมาคือ การเร่งสร้างชื่อให้เป็นที่จดจำในตลาด ซึ่งต้องพึ่งพันธมิตร ทำให้เกิดภาพลักษณ์ในเชิงลบกับผลิตภัณฑ์ของไป่ตู้ ในเรื่องของการถอดโปรแกรมออกจากเครื่องได้ยาก!
“นางชฎากร ธนสุวรรณเกษม” ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายปฏิบัติการไป่ตู้ ประเทศไทย กล่าวว่า เสียงบ่นเกี่ยวกับการถอดโปรแกรมไป่ตู้ออกจากเครื่องคอมพิวเตอร์พีซียากนั้น ทางไป่ตู้ประเทศไทยได้ดำเนินการแก้ไขแล้วที่ต้นเหตุ เนื่องจากไป่ตู้ประเทศไทยมีการร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจเพื่อให้ช่วยทำ ตลาด และมีการลงนามในสัญญาร่วมกับผู้ผลิตโดยให้ค่าตอบแทนเมื่อพันธมิตรหาลูกค้า ที่ใช้งานโปรแกรมของไป่ตู้ได้มากเป็นแรงจูงใจ จึงเป็นช่องว่างทำให้เกิดการลงโปรแกรมของไป่ตู้โดยทำให้ถอดโปรแกรมออกยาก ซึ่งพบว่ามีการนำผลิตภัณฑ์ของไป่ตู้ไปผูกกับตัวเครื่องและทำให้ผู้ใช้งานถอด ออกยาก เพื่อจะได้ส่วนแบ่งค่าตอบแทน เมื่อไป่ตู้ได้รับการร้องเรียนเข้ามาทั้งจากคอลล์เซ็นเตอร์และเฟซบุ๊ก จึงได้ตรวจสอบเมื่อพบว่าเป็นความจริงได้ยกเลิกสัญญากับพันธมิตรที่ทำผิดข้อ ตกลงไปแล้วหลายราย ส่วนการแนะนำผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ของไป่ตู้ จะใช้วิธีแนะนำกับคนที่ใช้ไป่ตู้อยู่แล้ว
“ช่วง 3-4 เดือนที่ผ่านมาไป่ตู้ตั้งหน่วยงานใหม่ในไทย ทำหน้าที่ทดลองดาวน์โหลดในสิ่งที่ลูกค้าแจ้งเข้ามา หรือร้องเรียนเข้ามาเพื่อหาต้นตอของปัญหาที่เกิดขึ้น ทำให้สามารถแก้ปัญหาได้ตรงจุดและลดปริมาณของปัญหาที่เคยเกิดขึ้นได้มาก” นางชฎากร กล่าว
........................................................................................
ทำความรู้จัก “ไป่ตู้”
“ไป่ ตู้” เป็นบริษัทสัญชาติจีน ก่อตั้งเมื่อปี 2543 หรือ 14 ปีที่แล้ว โดย นายโรบิน ลี ซึ่งชื่อ“ไป่ตู้” มีความหมายว่า “การค้นหาสิ่งที่ดีที่สุดอย่างไม่ย่อท้อ” เน้นให้บริการเรื่องของเทคโนโลยีเสิร์ช เอนจิ้น (ค้นหาข้อมูลทางอินเทอร์เน็ต) เป็นหลัก และนำเสนอวิธีการค้นหาข้อมูลเพื่อเชื่อมโยงผู้ใช้กับบริการอื่นๆ มีสัญลักษณ์ เป็น “อุ้งเท้าหมี” หมายถึงการค้นหาการตามหาแนวคิดในการสร้าง “ไป่ตู้” ของนายโรบิน ลี เกิดจากความต้องการทำให้การเข้าถึงข้อมูลเป็นเรื่องง่าย ปี 2557 ไป่ตู้มีพนักงานทั้งหมด 40,500 คน โดย 50% ของจำนวนพนักงาน เป็นพนักงานในส่วนของการวิจัยและพัฒนา อายุเฉลี่ยของพนักงานอยู่ที่ 23 ปี
ตั้งแต่ปี 2554 “ไป่ตู้” เข้าสู่โลกของธุรกิจมากขึ้น โดยเปิดตลาดและตั้งสำนักงานที่ประเทศญี่ปุ่น บราซิล ไทย และอียิปต์
สำหรับ อาณาจักรของ “ไป่ตู้” ตั้งอยู่ที่จงกวานชวน หรือที่เรียกว่า ซิลิคอน วัลเล่ย์ ของประเทศจีน ในส่วนของซอฟต์แวร์พาร์ค โดยสำนักงานใหญ่ของ “ไป่ตู้” มีชื่อว่า “ไป่ตู้ แคมปัส”
ปัจจุบันมูลค่าไป่ตู้ในตลาดหลัก ทรัพย์อยู่ที่ 7-8 หมื่นล้านเหรียญ โดยรายได้ของไป่ตู้ ไตรมาส 3 ปี 2557 อยู่ที่ 2.2 พันล้านเหรียญ ส่วนใหญ่เป็นรายได้จากในประเทศจีน ซึ่ง 36% มาจากการโฆษณาออนไลน์ ขณะที่ 4 ธุรกิจหลักที่ไป่ตู้มุ่งเป้าไว้ คือ1.เสิร์ช เอนจิ้น 2.คลาวด์ 3.การบริการแผนที่ทั้งหมด และ4.ธุรกิจระหว่างประเทศ
ส่วน เว็บไซต์ของไป่ตู้ www.baidu.com ถือเป็นเว็บไซต์ภาษาจีนที่ใหญ่ที่สุดในโลก หากนับรวมทุกภาษาจะเป็นเว็บไซต์ที่ใหญ่เป็นอันดับ 5 ของโลก ปัจจุบัน “ไป่ตู้” ถือเป็นเครื่องมือค้นหาข้อมูลทางอินเทอร์เน็ตที่มียอดการใช้งานเป็นอันดับ หนึ่งของจีน ด้วยการใช้งานสูงสุดถึง 72% รองลงมาคือเครื่องมือค้นหาข้อมูลของกูเกิ้ล 10 % และเครื่องมือค้นหาข้อมูลของ 360 อีก 10%
ประเทศจีนมีจำนวนผู้ใช้อิน เทอร์เน็ตสูงที่สุดในโลกอยู่ที่ 618 ล้านคน (ตัวเลขสิ้นปี 2556) ถึงแม้การใช้งานอินเทอร์เน็ตยังไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกันกับประเทศที่มีการ พัฒนา แต่การใช้งานอินเทอร์เน็ตในประเทศจีนกำลังมีการขยายตัว เนื่องจากจำนวนผู้ใช้อินเทอร์เน็ตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ขอขอบพระคุณหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ และ thailandgpstracker ผู้นำด้านการให้บริการระบบติดตามรถยนต์ครบวงจร ด้วยสินค้าคุณภาพ มาตรฐาน ผ่านการรับรองจากสถาบันชั้นนำต่างๆ ทั่วโลก

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น